Skip to main content

ติดตาม
My Self-Love Journey

เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความการรักและพัฒนาตัวเองดี ๆ

    We won't send you spam. Unsubscribe at any time.

    อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน

    📘 หนังสือ: อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน

    เคยไหมพยายามวิ่งหนีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแต่กลับพบว่ามันไม่เคยจากเราไปไหนเลย ความเศร้าจากการถูกคนรักบอกเลิก ความโกรธจากการถูกหักหลัง ไม่ว่าจะผ่านไปนานสองเดือนหรือสองปี มันก็ยังสามารถกลับมาทำร้ายจิตใจของเราได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

    อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เป็นหนังสือที่เราได้อ่านในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิต เพราะหนังสือเล่มนี้เราจึงเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและกล้าเผชิญกับมันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราฟื้นตัวจากความเจ็บปวดได้ วันนี้เราจึงอยากนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ  

    1. เมื่อเรากลัวการเผชิญกับความรู้สึก เราจะไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้
    2. ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่ความผิดของเรา แต่การฟื้นตัวเป็นหน้าที่ของเราและไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้
    3. การเฉยชาต่ออารมณ์ช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ปิดกั้นความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน
    4. การที่เราจะเข้าสู่โลกภายในจิตใจของตัวเราเองได้นั้น เราจะต้องอยู่ในภาวะที่นิ่งและเงียบสงบ
    5. ความเศร้าที่ถูกสะสมไว้สามารถถล่มลงมาได้เสมอ
    6. เราต้องปล่อยให้ตัวเองรู้สึก เราถึงจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้
    7. อารมณ์ก็เหมือนสภาพอากาศที่อะไรก็ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่สิ่งที่เราทำได้คือยอมรับ อดทน และรอให้มันผ่านพ้นไป
    8. เมื่อเราเต็มใจที่จะรู้สึก ความรู้สึกแย่ ๆ ที่เรากำลังเผชิญอยู่ก็จะค่อย ๆ จางหายไป
    9. เมื่ออารมณ์ไม่ถูกรับรู้หรือยอมรับจะยิ่งส่งผลเสียต่ออนาคตมากขึ้น
    10. คนที่มีสุขภาพจิตดีไม่ใช่คนที่ไม่มีอารมณ์ด้านลบเลย แต่เป็นคนที่กล้าเผชิญหน้าและยอมรับอารมณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาได้
    11. ชีวิตมนุษย์เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงและหลายสิ่งในชีวิตอยู่เหนือการควบคุมของเรา
    12. ความคุ้นเคยทำให้เราอุ่นใจ แต่ความไม่คุ้นเคยทำให้เรากลัว
    13. หลายคนเลือกอยู่แบบเดิมเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลง
    14. เมื่อเราให้ความต้องการของผู้อื่นมาก่อนและไม่สนใจฟังความต้องการของตัวเราเองเลย เราอาจรู้สึกเกลียดชังมากขึ้น ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อชีวิตของเราได้
    15. การโทษผู้อื่นคือการส่งต่อความเจ็บปวดให้ผู้อื่น
    16. การให้อภัยคือการไม่ปล่อยให้ความเจ็บปวดรั้งเราไว้กับคนที่ทำร้ายจิตใจเรา
    17. เราไม่อาจละทิ้งความเศร้าได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สิ่งที่เราทำได้คือแบกรับความเศร้าพร้อมกับก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
    18. การสานสัมพันธ์กับผู้คนด้วยความจริงใจคือกุญแจสู่ความสุขในชีวิต
    19. มีหลายอย่างในชีวิตที่เราควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งเดียวที่เราควบคุมได้คือวิธีการปฏิบัติต่อตัวเอง ผู้อื่น และสังคม
    20. ทุกอารมณ์ล้วนเป็นสิ่งชั่วคราว
    21. จงใจดีและมีเมตตากับความเจ็บปวด
    22. เมื่อเราเลิกกดความเจ็บปวดแล้วปล่อยให้มันมีพื้นที่ได้หายใจ เมื่อนั้นมันก็จะเลิกพยายามทำให้เรารู้สึกว่ามันยังอยู่
    23. อดีตทำให้เรากลายเป็นเราในปัจจุบัน
    24. กลไกการป้องกันตัวเองคือการใช้วิธีใดก็ตามที่ทำให้เราหลุดพ้นจากอารมณ์ที่แท้จริง 
    25. ทุกคนล้วนพัฒนากลไกการเอาตัวรอดเพื่อการอยู่รอด
    26. เราไม่สามารถเปลี่ยนอารมณ์โดยการเปลี่ยนความคิดได้
    27. การรับฟังและระบุชื่ออารมณ์ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดทางอารมณ์ได้
    28. ทุกอารมณ์ที่เรามีนั้นเป็นเรื่องปกติ
    29. ทุกความเศร้ามีความพิเศษของมันและไม่มีใครเศร้ามากกว่าใคร
    30. หากอยากใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เราต้องเต็มใจอยู่กับอารมณ์ของตัวเองให้ได้ก่อน และถึงแม้มันจะเจ็บปวดสักแค่ไหน แต่พวกเราก็จะผ่านมันไปได้เสมอ

    เพิ่มเติมเกี่ยวกับอารมณ์

    1. อารมณ์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและอารมณ์ไม่มีดีหรือไม่ดี
    2. อารมณ์ไม่ใช่ศัตรูและไม่จำเป็นต้องถูกผลักไส 
    3. อารมณ์คือปฏิกิริยาของเราต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากโลกภายนอกมาสู่โลกภายในใจเรา
    4. อารมณ์เป็นเครื่องนำทางชีวิตที่คอยบอกว่าเราชอบและไม่ชอบอะไร
    5. อารมณ์บอกให้เราฟังสิ่งที่เราต้องการและไม่ต้องการในชีวิต 
    6. อารมณ์ทำให้เรารับรู้ถึงสิ่งสำคัญในชีวิต
    7. อารมณ์จะคอยบอกว่าชีวิตของเราเป็นอย่างไรและต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
    8. อารมณ์เป็นเข็มทิศที่นำทางเราว่าควรเดินไปทางไหน
    9. ฝั่งสมองเหตุผลไม่สามารถควบคุมการรู้สึกของฝั่งสมองอารมณ์ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้คือการตอบสนองต่ออารมณ์ที่เกิดขึ้นมา
    10. หากเราตั้งใจฟังสิ่งที่อารมณ์กำลังคุยกับเรา เราจะรู้ว่าต้องไปที่ไหนและต้องตัดสินใจอย่างไร

    บางครั้งการรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองก็ทำให้เราเจ็บปวดมากกว่าการพยายามที่จะมองไม่เห็นมัน แต่เพื่อให้เราได้เป็นอิสระจากมันเราจึงจำเป็นต้องให้ตัวเองได้รู้สึก อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด จึงเป็นหนังสือที่เราอยากแนะนำมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งเมื่อเราเข้าใจมันแล้วก็จะทำให้เราฟื้นตัวจากความเจ็บปวดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น

    ⭐ พิกัดหนังสือ

            🛒 Lazada     🛒 Shopee     🛒 B2S     🛒 SE-ED

    ⭐ บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด

    Popular posts from this blog

    10 วิธีเลิกนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเอง

    Photo by Sixteen Miles Out on Unsplash เราต่างเคยทุกข์ใจและไม่ชอบเมื่อโดนคนอื่นวิจารณ์อยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้งก็เป็นตัวเราเองที่ชอบวิจารณ์ตัวเอง เราตั้งความคาดหวังที่สูงส่งให้กับตัวเอง และเราตำหนิตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลวหรือความผิดพลาดที่บางครั้งอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ หรือเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบจนเกิดความรู้สึกด้อยค่า วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรักตัวเองและปล่อยวางนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ 1. ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ แทนที่จะตำหนิและตัดสินตัวเองในแง่ลบเมื่อทำผิดพลาดหรือเผชิญกับความล้มเหลว เราสามารถเลือกปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักและความอ่อนโยนได้ ซึ่งการที่เราใจดีกับตัวเองนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะเมินเฉยต่อการกระทำของเราหรือความผิดพลาดเหล่านั้น แต่เป็นการที่เราเลือกที่จะรับผิดชอบโดยรับรู้ เรียนรู้จากมัน และนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาตัวเอง อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจความเป็นมนุษย์และความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองแทนการดูถูกตัวเองจนทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่ากันนะคะ 2. พยายามพูดกับตัวเองใน...

    10 วิธีให้อภัยตัวเอง

    Photo by Carli Jeen on Unsplash เราต่างเคยตัดสินใจผิดพลาด ประสบความล้มเหลว ทำลายความรู้สึกของคนที่เรารัก และถึงแม้มันจะเกิดขึ้นมานานแล้ว ความรู้สึกที่ว่าเราเป็นคนไม่ดีเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นยังคงอยู่ ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แต่อดีตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การที่เราลงโทษตัวเองด้วยความรู้สึกผิดไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข วันนี้เราจึงนำวิธีให้อภัยตัวเองมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ เพราะการให้อภัยตัวเองจะช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้โดยที่ไม่ต้องแบกความรู้สึกผิดไว้กับตัวเองอีกต่อไป 1. เรียนรู้จากความผิดพลาด พยายามทำความเข้าใจเหตุผลของการกระทำของเรา ทบทวนตัวเองว่าทำไมเราถึงทำผิดพลาดในตอนนั้น และมีอะไรที่เราสามารถแก้ไขได้หรือทำให้ดีกว่านี้ได้บ้าง และแทนที่จะโฟกัสกับเหตุการณ์แย่ ๆ ก็ให้โฟกัสกับสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ นำประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตมาเป็นบทเรียนให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเราต้องทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีก การให้ความสำคัญกับบทเรียนที่ได้แทนการจมปลักกับความรู้สึกแย่ ๆ จะทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่า...