Skip to main content

ติดตาม
My Self-Love Journey

เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความการรักและพัฒนาตัวเองดี ๆ

    We won't send you spam. Unsubscribe at any time.

    10 วิธีเอาชนะความรู้สึกเกลียดตัวเอง

    Photo by Sixteen Miles Out on Unsplash

    เคยไหมรู้สึกเกลียดตัวเองอยู่บ่อย ๆ เพียงเพราะเราไม่สมบูรณ์แบบหรือไม่ได้เป็นอย่างที่ใจเราต้องการ เราอาจจะเกลียดตัวเองที่หน้าตาไม่ดีเหมือนคนอื่น ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต รู้ว่าอยากเป็นคนที่ดีขึ้นแต่ก็ยากที่จะบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่เราต้องการ หลายคนเชื่อว่าการตำหนิตัวเองและการเกลียดตัวเองจะทำให้เราพัฒนาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ แต่เราจำเป็นที่จะต้องรู้สึกเกลียดตัวเองแบบนี้จริง ๆ หรือ เราเป็นคนที่ต้องอยู่กับตัวเองไปตลอดชีวิตจะดีกว่าไหมถ้าเรามาพยายามเอาชนะความรู้สึกนี้และหันมาพัฒนาตัวเองด้วยความรักและการปฏิบัติที่ดีต่อตัวเราเอง วันนี้เราจึงนำวิธีเอาชนะความรู้สึกเกลียดตัวเองมาฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ เพราะเราคือคนที่มีคุณค่าและสมควรได้รับความรักจากตัวเราเอง

    1. ฝึกพูดกับตัวเองในแง่บวก

    พยายามพูดสิ่งดี ๆ ให้กับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเองบ่อย ๆ แทนการดูถูกตัวเอง เพราะการที่เราพูดกับตัวเองในแง่ลบอยู่ตลอดเวลาจะทำให้เรามีความคิดที่แย่กับตัวเองและจะทำให้เรารู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้น

    2. โฟกัสกับจุดแข็งของตัวเอง

    ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตัวเองถนัดและทำได้ดี อาจจะเป็นการเล่นกีฬา เล่นเครื่องดนตรี วาดรูป หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัยของตัวเราเองก็สามารถเป็นจุดแข็งได้ เช่น เป็นคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ชอบรับฟังเวลาเพื่อนมีปัญหา ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรือเป็นคนที่รักสัตว์มาก ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นจุดแข็งซึ่งแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล และเราเชื่อว่าทุกคนมีสิ่งที่ดีและเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง แต่ถ้าเราไม่สามารถมองเห็นมันได้ในตอนนี้เพราะความรู้สึกเกลียดตัวเองที่ปกคลุมความคิดของเราทำให้เราคิดว่าเราไม่มีอะไรดี เราสามารถลองพูดคุยกับคนที่เราสนิทและไว้ใจก็ได้ค่ะ เพราะบางครั้งคนเหล่านั้นอาจเห็นสิ่งที่เรายังมองไม่เห็น และแทนที่เราจะเอาเวลาไปหมกมุ่นกับข้อเสียและสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต ให้ลองหันมาโฟกัสกับจุดแข็งภายในตัวเรา เสริมสร้างความมั่นใจ และภูมิใจในตัวเองกันนะคะ

    3. โฟกัสกับความสำเร็จ

    สำหรับคนที่เกลียดตัวเองและมีความเชื่อว่าตัวเองคือความล้มเหลวจึงไม่รู้ว่าตัวเองมีความสำเร็จอะไรบ้างในชีวิต เราเชื่อว่าทุกคนต่างก็เคยประสบความสำเร็จกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการที่เราสามารถเอาชนะวันแย่ ๆ มาได้ การที่เราได้มอบความรักให้กับตัวเองและคนอื่น ๆ การที่เราสามารถดูแลและพึ่งพาตัวเองได้ ทุกอย่างในชีวิตล้วนเป็นความสำเร็จได้ทั้งนั้น เพราะความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และเป็นตัวเราเองที่กำหนดนิยามของความสำเร็จนั้นขึ้นมา เราอยากให้ทุกคนใช้เวลานึกถึงความสำเร็จในแบบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ หรือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และโฟกัสไปกับมัน วิธีนี้จะช่วยทำให้เราเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น ซึ่งเราไม่ใช่คนที่ล้มเหลวตลอดเวลาอย่างที่เราคิดค่ะ

    4. ดูแลตัวเอง

    เมื่อเราดูแลตัวเองเป็นประจำ เราจะรู้สึกดีทั้งภายในและภายนอก ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกแย่ ๆ ที่มีต่อตัวเราเองได้ เพื่อน ๆ สามารถดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองได้โดยนอนหลับให้เพียงพอ ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และใช้เวลากับสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข เช่น อ่านหนังสือ เล่นกีฬา ออกไปเที่ยวข้างนอก เล่นกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้นค่ะ

    5. พาตัวเองไปอยู่กับพลังบวก

    ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ดี ๆ หนังสือเล่มโปรด และสิ่งที่ส่งผลต่อเรามากที่สุดก็คงจะเป็นผู้คนรอบตัวเราค่ะ เพราะสิ่งที่เราเก็บไว้ในชีวิตสามารถส่งผลต่อมุมมองที่เรามีต่อตัวเองได้ ดังนั้นลองพยายามเอาตัวเองไปอยู่กับคนที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา คอยสนับสนุนเรา และยอมรับในตัวตนที่แท้จริงของเรากันดูนะคะ พยายามหลีกเลี่ยงคนที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเอง หรือคนที่ชอบตำหนิเราตลอดเวลา อย่างเราเองก็เคยอยู่ในความสัมพันธ์ที่โดนต่อว่าอยู่บ่อย ๆ จนตอนนั้นมีความเชื่อว่าตัวเองดีไม่พอ และทุกอย่างก็คงเป็นความผิดของเราเอง แต่พอเราเอาตัวเองออกมาจากความสัมพันธ์นั้นก็พบว่าเราสามารถรักตัวเองและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้นได้ค่ะ

    6. ใจดีและมีเมตตาต่อตัวเอง

    ทุกคนต่างมีข้อเสีย เคยทำผิดพลาด และประสบความล้มเหลวกันมาทั้งนั้น ไม่มีใครสมบูรณ์แบบได้ทั้งหมด และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ค่ะ หากตอนนี้เพื่อน ๆ เกลียดตัวเองที่ไม่สามารถเป็นคนที่สมบูรณ์แบบได้ ลองหันมาปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรัก ความใจดี และความเข้าใจเหมือนที่เราทำให้คนที่เรารักอยู่บ่อย ๆ ให้กำลังใจตัวเองแทนการตำหนิ ให้อภัยตัวเองจากความผิดพลาด เรียนรู้จากมัน และพยายามก้าวเดินต่อไปข้างหน้ากันค่ะ

    7. ตั้งเป้าหมายที่เป็นจริงได้

    บางครั้งการที่เรารู้สึกแย่กับตัวเองก็มาจากการที่เราตั้งเป้าหมายหรือความคาดหวังที่เกินจริงให้กับตัวเราเอง โดยเฉพาะคนที่รักความสมบูรณ์แบบอย่างเราก็ต้องเผชิญกับความรู้สึกนี้อยู่บ่อย ๆ รู้สึกว่าทำเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ วิธีแก้คือให้ลองแตกเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อย ๆ ที่เราสามารถทำให้สำเร็จได้ และให้โฟกัสกับความก้าวหน้าของงานมากกว่าความสมบูรณ์แบบค่ะ การต้องการให้งานออกมาดีเป็นสิ่งที่ดีแต่เราก็ควรตั้งขอบเขตให้กับมันกันด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้ตัวเราต้องเหนื่อยและรู้สึกแย่เกินไปที่ไม่สามารถไปถึงจุดสมบูรณ์แบบนั้นได้

    8. ฝึกสติ

    เช่น นั่งสมาธิ หรือหายใจเข้าออกลึก ๆ โดยให้ลองสังเกตความคิดและอารมณ์ของเราโดยไม่ต้องไปตัดสินมัน ซึ่งจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้นค่ะ

    9. ฝึกทบทวนตัวเอง

    การเขียนบันทึกประจำวันเป็นวิธีที่ดีที่จะทำให้เราสามารถทบทวนตัวเองได้ เราสามารถไตร่ตรองเหตุการณ์ต่าง ๆ ของวัน หรือผู้คนที่กระตุ้นให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองได้ ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เราเห็นถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงรู้สึกเกลียดตัวเอง และจะช่วยให้เราสามารถหาวิธีดูแลตัวเองให้รู้สึกดีมากขึ้นได้ค่ะ

    10. ยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบ

    ความไม่สมบูรณ์แบบเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ ทุกคนต่างมีข้อดีและข้อเสียที่ทำให้งดงามในแบบของตัวเอง และนั่นคือความจริงที่ทำให้เราไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว เราไม่จำเป็นต้องมีผิวขาวไร้จุดด่างดำเพื่อให้ตัวเองมีคุณค่า เราไม่จำเป็นต้องเก่งไปทุกเรื่องเพื่อให้ทุกคนยอมรับ และเราไม่จำเป็นต้องทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลาเพื่อให้คนอื่นมองว่าเราดูดี ดังนั้นเรามาปล่อยวางเป้าหมายและความคาดหวังที่เกินจริงที่เราสร้างไว้ให้กับตัวเราเอง ซึ่งเมื่อเราไม่สามารถทำมันให้สำเร็จได้แล้ว ก็จะทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองไปเรื่อย ๆ กันนะคะ ยอมรับว่าไม่เป็นไรเลยที่จะมีข้อบกพร่อง การที่เราไม่สามารถเป็นคนที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สังคมได้กำหนดไว้ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนไร้ค่า เรามีคุณค่าในตัวเองอยู่แล้ว อย่าให้มาตรฐานความงามที่สังคมกำหนดขึ้นมา หรือโซเชียลมีเดียมาทำให้เราต้องรู้สึกด้อยค่าและคิดว่าเราต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบเท่านั้นถึงจะมีความสุขได้ เราสามารถกำหนดได้ว่าเราจะให้คุณค่ากับอะไร อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขจริง ๆ และเลือกใช้ชีวิตในแบบของตัวเองที่ทำให้เรามีความสุขและไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนค่ะ

    เป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกแย่กับตัวเองในบางครั้ง แต่เราไม่จำเป็นต้องจมปลักกับมันนานจนกลายมาเป็นความรู้สึกเกลียดตัวเอง การเอาชนะความรู้สึกนี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ความอดทน และความเมตตาจากตัวเราเอง โดยเฉพาะกับคนที่รู้สึกเกลียดตัวเองอยู่บ่อย ๆ แต่เพราะเราสมควรได้รับความรักและมีความสุขกับการใช้ชีวิต เราจึงหวังว่าวิธีที่นำมาแชร์ในวันนี้จะสามารถช่วยให้เพื่อน ๆ รู้สึกดีขึ้นกันได้บ้างนะคะ

    ⭐ บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด

    รักตัวเอง เอาชนะความรู้สึกเกลียดตัวเอง

    Popular posts from this blog

    10 วิธีเลิกนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเอง

    Photo by Sixteen Miles Out on Unsplash เราต่างเคยทุกข์ใจและไม่ชอบเมื่อโดนคนอื่นวิจารณ์อยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้งก็เป็นตัวเราเองที่ชอบวิจารณ์ตัวเอง เราตั้งความคาดหวังที่สูงส่งให้กับตัวเอง และเราตำหนิตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลวหรือความผิดพลาดที่บางครั้งอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ หรือเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบจนเกิดความรู้สึกด้อยค่า วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรักตัวเองและปล่อยวางนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ 1. ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ แทนที่จะตำหนิและตัดสินตัวเองในแง่ลบเมื่อทำผิดพลาดหรือเผชิญกับความล้มเหลว เราสามารถเลือกปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักและความอ่อนโยนได้ ซึ่งการที่เราใจดีกับตัวเองนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะเมินเฉยต่อการกระทำของเราหรือความผิดพลาดเหล่านั้น แต่เป็นการที่เราเลือกที่จะรับผิดชอบโดยรับรู้ เรียนรู้จากมัน และนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาตัวเอง อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจความเป็นมนุษย์และความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองแทนการดูถูกตัวเองจนทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่ากันนะคะ 2. พยายามพูดกับตัวเองใน...

    อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน

    📘 หนังสือ: อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน เคยไหมพยายามวิ่งหนีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแต่กลับพบว่ามันไม่เคยจากเราไปไหนเลย ความเศร้าจากการถูกคนรักบอกเลิก ความโกรธจากการถูกหักหลัง ไม่ว่าจะผ่านไปนานสองเดือนหรือสองปี มันก็ยังสามารถกลับมาทำร้ายจิตใจของเราได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เป็นหนังสือที่เราได้อ่านในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิต เพราะหนังสือเล่มนี้เราจึงเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและกล้าเผชิญกับมันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราฟื้นตัวจากความเจ็บปวดได้ วันนี้เราจึงอยากนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ   1. เมื่อเรากลัวการเผชิญกับความรู้สึก เราจะไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้ 2. ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่ความผิดของเรา แต่การฟื้นตัวเป็นหน้าที่ของเราและไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ 3. การเฉยชาต่ออารมณ์ช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ปิดกั้นความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน 4. การที่เราจะเข้าสู่โลกภายในจิตใจของตัวเราเองได้นั้น เราจะต...

    10 วิธีให้อภัยตัวเอง

    Photo by Carli Jeen on Unsplash เราต่างเคยตัดสินใจผิดพลาด ประสบความล้มเหลว ทำลายความรู้สึกของคนที่เรารัก และถึงแม้มันจะเกิดขึ้นมานานแล้ว ความรู้สึกที่ว่าเราเป็นคนไม่ดีเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นยังคงอยู่ ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แต่อดีตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การที่เราลงโทษตัวเองด้วยความรู้สึกผิดไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข วันนี้เราจึงนำวิธีให้อภัยตัวเองมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ เพราะการให้อภัยตัวเองจะช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้โดยที่ไม่ต้องแบกความรู้สึกผิดไว้กับตัวเองอีกต่อไป 1. เรียนรู้จากความผิดพลาด พยายามทำความเข้าใจเหตุผลของการกระทำของเรา ทบทวนตัวเองว่าทำไมเราถึงทำผิดพลาดในตอนนั้น และมีอะไรที่เราสามารถแก้ไขได้หรือทำให้ดีกว่านี้ได้บ้าง และแทนที่จะโฟกัสกับเหตุการณ์แย่ ๆ ก็ให้โฟกัสกับสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ นำประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตมาเป็นบทเรียนให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเราต้องทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีก การให้ความสำคัญกับบทเรียนที่ได้แทนการจมปลักกับความรู้สึกแย่ ๆ จะทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่า...