Skip to main content

ติดตาม
My Self-Love Journey

เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความการรักและพัฒนาตัวเองดี ๆ

    We won't send you spam. Unsubscribe at any time.

    15 วิธีพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น สร้างความสำเร็จในชีวิต

    Photo by Arnel Hasanovic on Unsplash

    ทุกคนต่างมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้กับตัวเอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเกี่ยวกับหน้าที่การงาน การเรียน ความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คงเป็นการที่เราได้ค้นพบศักยภาพที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเราผ่านการเลือกที่จะพัฒนาและเติบโตขึ้นในทุก ๆ วัน วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีพัฒนาตัวเองง่าย ๆ ที่สามารถทำได้เลยวันนี้มาฝากเพื่อน ๆ กัน เพื่อสร้างผลดีต่อชีวิตของเราเองค่ะ

    1. ลองทำสิ่งใหม่ ๆ

    ลองทำงานอดิเรกหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราสนใจ ลองทานอาหารที่ไม่เคยทาน อ่านหนังสือแนวใหม่ ๆ ที่ไม่คิดว่าจะอ่าน ทำความรู้จักกับคนใหม่ ๆ และเผชิญหน้ากับความกลัวไม่ว่าเราจะกลัวความล้มเหลวหรือกลัวคนอื่นตัดสินเรา วิธีนี้จะช่วยทำให้เราค้นพบความสามารถหรือความสนใจใหม่ ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และยังทำให้เราได้ออกจาก Comfort zone กล้าที่จะเผชิญกับสิ่งใหม่และความเปลี่ยนแปลงในชีวิตซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นได้ค่ะ

    2. เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

    เราสามารถเพิ่มพูนความรู้ของเราได้ตลอดเวลาและหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ ลองทำงานอดิเรกใหม่ ๆ เรียนภาษาต่างประเทศ ศึกษาวัฒนธรรมต่าง ๆ หรือเรียนคอร์สออนไลน์ ปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และการสร้างนิสัยรักการเรียนรู้นี้จะทำให้เรามีความรู้ไว้รับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตและพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

    3. ตั้งเป้าหมาย

    เป้าหมายจะทำให้เรารู้ว่าจริง ๆ แล้วเราต้องการอะไร และต้องทำอะไรบ้างถึงจะประสบความสำเร็จ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้ การกำหนดสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จ และแตกออกเป็นเป้าหมายย่อย ๆ ที่เราสามารถบรรลุได้จะทำให้เรามองเห็นเส้นทางของตัวเองได้อย่างชัดเจนและสร้างแรงรูงใจให้กับเรามากขึ้น เหมือนกับเราได้มีแผนที่ที่จะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ค่ะ

    4. ลงมือทำตามเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ

    สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำให้เราเรียนรู้และสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้ก็คือการลงมือทำเสริมด้วยความสม่ำเสมอที่เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ต่อการสร้างนิสัยใหม่ ๆ และการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ บางครั้งเราอาจจะรู้สึกขี้เกียจและไม่อยากทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ความสม่ำเสมอนี้เองที่จะเป็นกุญแจสำคัญนำพาเราไปสู่ความสำเร็จในชีวิต เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน หากมัวแต่รอให้ตัวเองรู้สึกขยันก็อาจจะทำให้เรามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งและไม่ยอมลงมือทำสักที จนเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ค่ะ

    5. ปลูกฝัง Growth Mindset

    มองอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตให้เป็นโอกาสแห่งการเติบโต เรียนรู้จากความล้มเหลว และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องพบเจอกับอุปสรรคและความยากลำบากก็ให้เชื่อมั่นในตัวเองและบอกกับตัวเองเสมอว่าเราสามารถเอาชนะมันไปได้ค่ะ

    6. พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์

    ความฉลาดทางอารมณ์ช่วยให้เราเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองและของคนรอบตัวเราได้ดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้เรามีความเห็นอกเห็นใจ ส่งผลให้เราสามารถรับมือกับอุปสรรคและพัฒนาความสัมพันธ์กับคนอื่นได้ดีมากขึ้นค่ะ

    7. ฝึกขอบคุณสิ่งต่าง ๆ ในชีวิต

    วิธีนี้จะช่วยให้เราเห็นคุณค่ากับสิ่งที่เรามี และไม่รู้สึกทุกข์กับสิ่งที่เรายังไม่มีในชีวิตค่ะ สำหรับเราแล้วถือว่าช่วยลดความอิจฉาและการเปรียบเทียบกับคนอื่นได้เป็นอย่างดีเลย โดยเราจะเขียนลิสต์สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในทุก ๆ วันไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นการได้เล่นกับแมว อากาศตอนเช้าที่เย็นสบาย แหล่งความรู้ต่าง ๆ ที่เข้าถึงได้ เวลาที่ได้อยู่คนเดียวและได้ทำในสิ่งที่เราชอบ เป็นต้นค่ะ

    8. ฝึกทำดีต่อผู้อื่น

    ลองตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ในทุก ๆ วันกันดูค่ะ อาจจะเป็นการพูดขอบคุณเมื่อมีคนทำสิ่งดี ๆ ให้เรา ให้คำชมกับคนอื่น แบ่งปันที่นั่งให้กับคนอื่นบ้าง มีสิ่งต่าง ๆ มากมายที่เราสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ และการฝึกทำดีกับคนอื่นนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนอื่น ๆ และตัวเราเอง และยังสามารถสร้างความรัก ความเมตตา และความอดทนให้กับเราได้อีกด้วย

    9. อยู่ใกล้คนมีพลังบวก

    เลือกอยู่กับคนที่ให้กำลังใจเรา สนับสนุนเรา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา ผู้คนรอบตัวเราส่งผลต่อมุมมองที่เรามีต่อชีวิตและความรู้สึกของเราเป็นอย่างมากค่ะ

    10. หลีกเลี่ยงสิ่งที่คอยดูดพลังเรา

    ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นโซเชียลมีเดียที่ยิ่งใช้เวลาไปกับมันก็ยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเอง หรือผู้คนที่อยู่ด้วยเมื่อไหร่ก็รู้สึกเหนื่อยใจทุกที สิ่งรอบตัวเรามีผลกระทบต่อตัวเรามากจริง ๆ อย่าลืมว่าพลังงานเป็นสิ่งจำกัด หากเราคอยให้สิ่งเหล่านี้ดูดพลังเราไปเรื่อย ๆ เราก็จะไม่มีพลังงานไปดูแลตัวเองหรือพัฒนาตัวเองได้ค่ะ

    11. ทำ To-do list

    เขียนสิ่งที่เราต้องทำในแต่ละวันออกมาจะช่วยให้เราเห็นว่ามีอะไรที่เราต้องทำให้เสร็จบ้าง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการจัดการเวลาและช่วยให้เราสามารถจดจ่อกับวันได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

    12. สร้างนิสัยใหม่ ๆ

    ชอบนอนตื่นสายและผัดวันประกันพรุ่งจนเคยชิน มาปรับแก้โดยการสร้างนิสัยใหม่ ๆ ให้กับตัวเรากันค่ะ อาจจะลองพยายามตื่นเช้ามากขึ้นเพื่อไม่ให้ไปทำงานสาย ออกกำลังกายเป็นประจำ อ่านหนังสือ นั่งสมาธิ เลิกคิดลบต่อตัวเองและคนอื่น หรือสร้างระเบียบวินัยให้กับตัวเอง เป็นต้นค่ะ

    13. ดูแลตัวเอง

    การดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์สำคัญมาก ๆ ต่อการพัฒนาตัวเอง เราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการสร้างหรือรักษาไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพ ออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวร่างกายอยู่บ่อย ๆ ทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เรียนรู้วิธีจัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างถูกวิธี ร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงของเรานี้จะช่วยทำให้เรามีพลังงานและสมาธิที่จำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ให้กับตัวเองค่ะ

    14. ฝึกทบทวนตัวเอง

    จัดสรรเวลาให้กับการทบทวนตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบันทึกประจำวัน นั่งสมาธิ วิธีนี้จะช่วยสร้างความตระหนักรู้ในตัวเองมากขึ้น ทำให้เรามองเห็นวิธีคิด จุดแข็ง และจุดอ่อนของตัวเอง ช่วยให้ติดตามความก้าวหน้าต่าง ๆ ในชีวิต พร้อมทั้งช่วยให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นได้อีกด้วยค่ะ

    15. อดทนกับตัวเอง

    การพัฒนาตัวเองและเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้นนั้นใช้เวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก เมื่อเจออุปสรรคหรือหมดกำลังใจเวลาที่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่าลืมใจดีกับตัวเอง และให้กำลังใจตัวเองให้พยายามก้าวเดินต่อไปข้างหน้ากันด้วยนะคะ

    การพัฒนาตัวเองเป็นการเดินทางไปเรื่อย ๆ ที่อาศัยความมุ่งมั่นและความทุ่มเท และวิธีที่ดีที่สุดก็คงเป็นการที่เราเริ่มลงมือทำตั้งแต่วันนี้โดยอาจเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ และพัฒนาไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ หวังว่าวิธีที่นำมาแชร์ในวันนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถปลดล็อกศักยภาพของตัวเอง และมีความสุขกับการได้เติบโตในทุก ๆ วัน เพื่อน ๆ อย่าลืมนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเองกันดูนะคะ

    ⭐ บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด

    พัฒนาตัวเอง ความสำเร็จ

    Popular posts from this blog

    10 วิธีเลิกนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเอง

    Photo by Sixteen Miles Out on Unsplash เราต่างเคยทุกข์ใจและไม่ชอบเมื่อโดนคนอื่นวิจารณ์อยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้งก็เป็นตัวเราเองที่ชอบวิจารณ์ตัวเอง เราตั้งความคาดหวังที่สูงส่งให้กับตัวเอง และเราตำหนิตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลวหรือความผิดพลาดที่บางครั้งอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ หรือเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบจนเกิดความรู้สึกด้อยค่า วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรักตัวเองและปล่อยวางนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ 1. ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ แทนที่จะตำหนิและตัดสินตัวเองในแง่ลบเมื่อทำผิดพลาดหรือเผชิญกับความล้มเหลว เราสามารถเลือกปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักและความอ่อนโยนได้ ซึ่งการที่เราใจดีกับตัวเองนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะเมินเฉยต่อการกระทำของเราหรือความผิดพลาดเหล่านั้น แต่เป็นการที่เราเลือกที่จะรับผิดชอบโดยรับรู้ เรียนรู้จากมัน และนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาตัวเอง อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจความเป็นมนุษย์และความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองแทนการดูถูกตัวเองจนทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่ากันนะคะ 2. พยายามพูดกับตัวเองใน...

    อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน

    📘 หนังสือ: อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน เคยไหมพยายามวิ่งหนีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแต่กลับพบว่ามันไม่เคยจากเราไปไหนเลย ความเศร้าจากการถูกคนรักบอกเลิก ความโกรธจากการถูกหักหลัง ไม่ว่าจะผ่านไปนานสองเดือนหรือสองปี มันก็ยังสามารถกลับมาทำร้ายจิตใจของเราได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เป็นหนังสือที่เราได้อ่านในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิต เพราะหนังสือเล่มนี้เราจึงเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและกล้าเผชิญกับมันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราฟื้นตัวจากความเจ็บปวดได้ วันนี้เราจึงอยากนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ   1. เมื่อเรากลัวการเผชิญกับความรู้สึก เราจะไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้ 2. ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่ความผิดของเรา แต่การฟื้นตัวเป็นหน้าที่ของเราและไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ 3. การเฉยชาต่ออารมณ์ช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ปิดกั้นความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน 4. การที่เราจะเข้าสู่โลกภายในจิตใจของตัวเราเองได้นั้น เราจะต...

    10 วิธีให้อภัยตัวเอง

    Photo by Carli Jeen on Unsplash เราต่างเคยตัดสินใจผิดพลาด ประสบความล้มเหลว ทำลายความรู้สึกของคนที่เรารัก และถึงแม้มันจะเกิดขึ้นมานานแล้ว ความรู้สึกที่ว่าเราเป็นคนไม่ดีเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นยังคงอยู่ ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แต่อดีตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การที่เราลงโทษตัวเองด้วยความรู้สึกผิดไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข วันนี้เราจึงนำวิธีให้อภัยตัวเองมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ เพราะการให้อภัยตัวเองจะช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้โดยที่ไม่ต้องแบกความรู้สึกผิดไว้กับตัวเองอีกต่อไป 1. เรียนรู้จากความผิดพลาด พยายามทำความเข้าใจเหตุผลของการกระทำของเรา ทบทวนตัวเองว่าทำไมเราถึงทำผิดพลาดในตอนนั้น และมีอะไรที่เราสามารถแก้ไขได้หรือทำให้ดีกว่านี้ได้บ้าง และแทนที่จะโฟกัสกับเหตุการณ์แย่ ๆ ก็ให้โฟกัสกับสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ นำประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตมาเป็นบทเรียนให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเราต้องทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีก การให้ความสำคัญกับบทเรียนที่ได้แทนการจมปลักกับความรู้สึกแย่ ๆ จะทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่า...