Skip to main content

ติดตาม
My Self-Love Journey

เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความการรักและพัฒนาตัวเองดี ๆ

    We won't send you spam. Unsubscribe at any time.

    3 บทเรียนที่ได้เมื่อใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น

    Photo by Alisa Anton on Unsplash

    หลายคนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้ต้องเป็นทุกข์เพราะกลัวการอยู่คนเดียว หลายคนยอมให้คนอื่นปฏิบัติต่อตัวเองไม่ดีเพราะกลัวว่าถ้าไม่มีคนเหล่านั้นแล้วจะอยู่ไม่ได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วการอยู่คนเดียวไม่ได้แย่เลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เรายกมาข้างต้นนี้ หลังจากที่เราได้ลองใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น ได้ถอยออกมาจากความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกแย่อยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจึงนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาฝากเพื่อน ๆ กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ กันบ้างนะคะ

    1. เราต้องรับผิดชอบความสุขของตัวเอง

    หลายต่อหลายครั้งที่เราไปคาดหวังให้คนรอบข้างเป็นคนมอบความสุขให้กับเรา เราคาดหวังให้เพื่อนสนิทต้องคอยอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา คาดหวังคนรักให้ต้องบอกรักเรา ส่งข้อความหาเราในทุก ๆ วันเราถึงจะยอมมีความสุข แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความคาดหวังและนั่นเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคาดหวังมากเกินไปและนำความสุขของเราไปขึ้นอยู่กับคนรอบข้างเมื่อนั้นเราย่อมต้องเจอกับความผิดหวัง เพราะไม่มีใครจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบให้กับเราได้ ไม่มีใครจะทำให้เรามีความสุขได้ตลอดเวลา บางครั้งพวกเขาเหล่านั้นเองอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาในชีวิตอยู่ก็ได้ และสิ่งที่เราต้องยอมรับให้ได้คือเราไม่สามารถไปควบคุมหรือบังคับใครให้ทำตามที่เราต้องการได้ ดังนั้นถ้าอยากมีความสุขกับชีวิตเราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางความคาดหวังเหล่านั้น และตัดสินใจกับตัวเองว่าต่อจากนี้เราจะเป็นคนที่รับผิดชอบความสุขของตัวเอง ไม่ว่าคนรอบข้างจะทำอะไรก็แล้วแต่เราก็จะยังคงมีความสุขได้เสมอ เพราะความสุขของเราขึ้นอยู่กับตัวเราเอง และเราจะไม่ยอมมอบอำนาจของเราให้คนอื่นมาทำให้เราต้องรู้สึกทุกข์ใจค่ะ

    2. การอยู่คนเดียวไม่ได้ทำให้เหงาเสมอไป

    เคยไหมรู้สึกเหงาทั้งที่มีคนรักอยู่ รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปแม้ตอนนั้นกำลังใช้เวลาร่วมกัน แล้วเราก็ต้องมานั่งถามตัวเองทีหลังว่าเราควรเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นไหม เราต่างไขว่คว้าหาคนรัก หาความสัมพันธ์เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรามีความสุขและไม่ต้องเหงาอีกต่อไป เราคิดว่าถ้าได้มีคนรักแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าความสัมพันธ์ช่วงแรก ๆ อาจทำให้เรามีความสุขได้ แต่ก็มีอีกหลายสิ่งที่เราต้องเผชิญเช่นเดียวกันเมื่อเราเลือกที่จะคบหากับใครสักคน อาจจะเป็นการที่เข้ากันได้ไม่ดีในภายหลัง การที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง เป้าหมายการใช้ชีวิตต่างกันเกินไป อีกฝ่ายเปลี่ยนไปจนเราไม่สามารถไว้ใจกันได้ ดังนั้นการเลือกอยู่ในความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ทำให้ความเหงาหายไป และการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ทำให้เหงาเสมอไป กลับกันการอยู่คนเดียวอาจทำให้เรามีความสุขกับชีวิตมากกว่า ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง สนุกกับการใช้ชีวิตและกับการได้ใช้เวลาของเราทำอะไรก็ได้ที่ใจเราต้องการค่ะ

    3. การอยู่คนเดียวทำให้ได้โฟกัสกับเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น

    บางครั้งคนรอบข้างก็หวังดีกับเรามากเกินไปจึงไม่อยากให้เราลองทำสิ่งใหม่ ๆ เพราะกลัวว่าเราจะล้มเหลวและต้องรู้สึกเศร้าเสียใจในภายหลัง จึงไม่ได้สนับสนุนเราอย่างเต็มที่ บางครั้งคนที่เรารักก็เป็นคนเดียวกันกับคนที่ชอบใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกด้อยค่าและรู้สึกสงสัยในความสามารถของตัวเอง การถอยออกมาอยู่คนเดียวสักพัก ปลีกตัวเองออกจากเสียงคนรอบข้างที่คอยย้ำเตือนว่าเราไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถอาจเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นหากเราอยากลองทำตามเป้าหมายชีวิตที่เราได้ตั้งไว้ บางครั้งเราต้องยอมเลือกที่จะอยู่กับตัวเองหากคนรอบข้างได้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์ค่ะ

    ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นสิ่งจำเป็นกับการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับการได้ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้าง บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนตัดขาดทุกความสัมพันธ์แล้วเลือกที่จะอยู่คนเดียวเลย แต่เราก็จำเป็นต้องเลือกว่าความสัมพันธ์ไหนที่เราจะเก็บไว้ในชีวิต เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ควรอยู่ในชีวิตเราหากคนเหล่านั้นทำให้เราต้องเป็นทุกข์อยู่บ่อย ๆ เราจึงไม่อยากให้ทุกคนกลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียวหรือใช้เวลากับตัวเองจนเป็นเหตุให้ต้องยอมอยู่ในความสัมพันธ์ที่มันส่งผลเสียมากกว่าผลดี เราเองก็เคยกลัวมาก ๆ กับการเลิกรา ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะดีหรือไม่ดี แต่พอถึงเวลาที่ต้องเดินออกมาจริง ๆ จึงได้เรียนรู้ว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ได้แย่เลย ในทางกลับกันเราได้เรียนรู้ที่จะมอบความรัก เวลา และพลังงานให้กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งทำให้เรามีเวลาโฟกัสกับเป้าหมายในชีวิตและได้เรียนรู้ที่จะมีความสุขให้ได้ด้วยตัวเองค่ะ

    ⭐ บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด

    ใช้เวลากับตัวเอง รักตัวเอง

    Popular posts from this blog

    10 วิธีเลิกนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเอง

    Photo by Sixteen Miles Out on Unsplash เราต่างเคยทุกข์ใจและไม่ชอบเมื่อโดนคนอื่นวิจารณ์อยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้งก็เป็นตัวเราเองที่ชอบวิจารณ์ตัวเอง เราตั้งความคาดหวังที่สูงส่งให้กับตัวเอง และเราตำหนิตัวเองเมื่อต้องเผชิญกับความล้มเหลวหรือความผิดพลาดที่บางครั้งอาจจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ หรือเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อสภาพจิตใจของเรา ทำให้เรามองตัวเองในแง่ลบจนเกิดความรู้สึกด้อยค่า วันนี้เราจึงอยากจะพาทุกคนไปรักตัวเองและปล่อยวางนิสัยชอบวิจารณ์ตัวเองด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ 1. ใจดีกับตัวเองให้มาก ๆ แทนที่จะตำหนิและตัดสินตัวเองในแง่ลบเมื่อทำผิดพลาดหรือเผชิญกับความล้มเหลว เราสามารถเลือกปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักและความอ่อนโยนได้ ซึ่งการที่เราใจดีกับตัวเองนี้ไม่ได้หมายความว่าเราจะเมินเฉยต่อการกระทำของเราหรือความผิดพลาดเหล่านั้น แต่เป็นการที่เราเลือกที่จะรับผิดชอบโดยรับรู้ เรียนรู้จากมัน และนำบทเรียนที่ได้มาใช้พัฒนาตัวเอง อย่าลืมให้กำลังใจตัวเอง เข้าใจความเป็นมนุษย์และความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเองแทนการดูถูกตัวเองจนทำให้เกิดความรู้สึกไร้ค่ากันนะคะ 2. พยายามพูดกับตัวเองใน...

    อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน

    📘 หนังสือ: อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เขียนโดย ดร. หลิวเพ่ยเซวียน เคยไหมพยายามวิ่งหนีอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแต่กลับพบว่ามันไม่เคยจากเราไปไหนเลย ความเศร้าจากการถูกคนรักบอกเลิก ความโกรธจากการถูกหักหลัง ไม่ว่าจะผ่านไปนานสองเดือนหรือสองปี มันก็ยังสามารถกลับมาทำร้ายจิตใจของเราได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า  อย่าเก็บอารมณ์ไว้ให้ใจเจ็บปวด เป็นหนังสือที่เราได้อ่านในช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในชีวิต เพราะหนังสือเล่มนี้เราจึงเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและกล้าเผชิญกับมันมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราฟื้นตัวจากความเจ็บปวดได้ วันนี้เราจึงอยากนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้มาแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ   1. เมื่อเรากลัวการเผชิญกับความรู้สึก เราจะไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการได้ 2. ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับเราไม่ใช่ความผิดของเรา แต่การฟื้นตัวเป็นหน้าที่ของเราและไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ 3. การเฉยชาต่ออารมณ์ช่วยให้เราไม่ต้องรู้สึกถึงความเจ็บปวดได้ แต่ในเวลาเดียวกันมันก็ปิดกั้นความสวยงามของโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน 4. การที่เราจะเข้าสู่โลกภายในจิตใจของตัวเราเองได้นั้น เราจะต...

    10 วิธีให้อภัยตัวเอง

    Photo by Carli Jeen on Unsplash เราต่างเคยตัดสินใจผิดพลาด ประสบความล้มเหลว ทำลายความรู้สึกของคนที่เรารัก และถึงแม้มันจะเกิดขึ้นมานานแล้ว ความรู้สึกที่ว่าเราเป็นคนไม่ดีเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านั้นยังคงอยู่ ทำให้เราไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แต่อดีตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ การที่เราลงโทษตัวเองด้วยความรู้สึกผิดไปเรื่อย ๆ ไม่สามารถทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข วันนี้เราจึงนำวิธีให้อภัยตัวเองมาแชร์ให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ เพราะการให้อภัยตัวเองจะช่วยให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้โดยที่ไม่ต้องแบกความรู้สึกผิดไว้กับตัวเองอีกต่อไป 1. เรียนรู้จากความผิดพลาด พยายามทำความเข้าใจเหตุผลของการกระทำของเรา ทบทวนตัวเองว่าทำไมเราถึงทำผิดพลาดในตอนนั้น และมีอะไรที่เราสามารถแก้ไขได้หรือทำให้ดีกว่านี้ได้บ้าง และแทนที่จะโฟกัสกับเหตุการณ์แย่ ๆ ก็ให้โฟกัสกับสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้ นำประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้วในอดีตมาเป็นบทเรียนให้เราพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อไม่ให้ตัวเราต้องทำผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีก การให้ความสำคัญกับบทเรียนที่ได้แทนการจมปลักกับความรู้สึกแย่ ๆ จะทำให้เราเติบโตเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่า...