Photo by Alisa Anton on Unsplash |
หลายคนอยู่ในความสัมพันธ์ที่ทำให้ต้องเป็นทุกข์เพราะกลัวการอยู่คนเดียว หลายคนยอมให้คนอื่นปฏิบัติต่อตัวเองไม่ดีเพราะกลัวว่าถ้าไม่มีคนเหล่านั้นแล้วจะอยู่ไม่ได้ ทั้งที่จริง ๆ แล้วการอยู่คนเดียวไม่ได้แย่เลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เรายกมาข้างต้นนี้ หลังจากที่เราได้ลองใช้เวลากับตัวเองมากขึ้น ได้ถอยออกมาจากความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกแย่อยู่บ่อย ๆ วันนี้เราจึงนำสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาฝากเพื่อน ๆ กัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ กันบ้างนะคะ
1. เราต้องรับผิดชอบความสุขของตัวเอง
หลายต่อหลายครั้งที่เราไปคาดหวังให้คนรอบข้างเป็นคนมอบความสุขให้กับเรา เราคาดหวังให้เพื่อนสนิทต้องคอยอยู่เคียงข้างเราตลอดเวลา คาดหวังคนรักให้ต้องบอกรักเรา ส่งข้อความหาเราในทุก ๆ วันเราถึงจะยอมมีความสุข แน่นอนว่าทุกคนย่อมมีความคาดหวังและนั่นเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราคาดหวังมากเกินไปและนำความสุขของเราไปขึ้นอยู่กับคนรอบข้างเมื่อนั้นเราย่อมต้องเจอกับความผิดหวัง เพราะไม่มีใครจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบให้กับเราได้ ไม่มีใครจะทำให้เรามีความสุขได้ตลอดเวลา บางครั้งพวกเขาเหล่านั้นเองอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาในชีวิตอยู่ก็ได้ และสิ่งที่เราต้องยอมรับให้ได้คือเราไม่สามารถไปควบคุมหรือบังคับใครให้ทำตามที่เราต้องการได้ ดังนั้นถ้าอยากมีความสุขกับชีวิตเราต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางความคาดหวังเหล่านั้น และตัดสินใจกับตัวเองว่าต่อจากนี้เราจะเป็นคนที่รับผิดชอบความสุขของตัวเอง ไม่ว่าคนรอบข้างจะทำอะไรก็แล้วแต่เราก็จะยังคงมีความสุขได้เสมอ เพราะความสุขของเราขึ้นอยู่กับตัวเราเอง และเราจะไม่ยอมมอบอำนาจของเราให้คนอื่นมาทำให้เราต้องรู้สึกทุกข์ใจค่ะ
2. การอยู่คนเดียวไม่ได้ทำให้เหงาเสมอไป
เคยไหมรู้สึกเหงาทั้งที่มีคนรักอยู่ รู้สึกว่ามีบางอย่างขาดหายไปแม้ตอนนั้นกำลังใช้เวลาร่วมกัน แล้วเราก็ต้องมานั่งถามตัวเองทีหลังว่าเราควรเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นไหม เราต่างไขว่คว้าหาคนรัก หาความสัมพันธ์เพราะคิดว่ามันจะทำให้เรามีความสุขและไม่ต้องเหงาอีกต่อไป เราคิดว่าถ้าได้มีคนรักแล้วทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าความสัมพันธ์ช่วงแรก ๆ อาจทำให้เรามีความสุขได้ แต่ก็มีอีกหลายสิ่งที่เราต้องเผชิญเช่นเดียวกันเมื่อเราเลือกที่จะคบหากับใครสักคน อาจจะเป็นการที่เข้ากันได้ไม่ดีในภายหลัง การที่ไม่สามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง เป้าหมายการใช้ชีวิตต่างกันเกินไป อีกฝ่ายเปลี่ยนไปจนเราไม่สามารถไว้ใจกันได้ ดังนั้นการเลือกอยู่ในความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ทำให้ความเหงาหายไป และการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ทำให้เหงาเสมอไป กลับกันการอยู่คนเดียวอาจทำให้เรามีความสุขกับชีวิตมากกว่า ถ้าเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวเอง สนุกกับการใช้ชีวิตและกับการได้ใช้เวลาของเราทำอะไรก็ได้ที่ใจเราต้องการค่ะ
3. การอยู่คนเดียวทำให้ได้โฟกัสกับเป้าหมายในชีวิตมากขึ้น
บางครั้งคนรอบข้างก็หวังดีกับเรามากเกินไปจึงไม่อยากให้เราลองทำสิ่งใหม่ ๆ เพราะกลัวว่าเราจะล้มเหลวและต้องรู้สึกเศร้าเสียใจในภายหลัง จึงไม่ได้สนับสนุนเราอย่างเต็มที่ บางครั้งคนที่เรารักก็เป็นคนเดียวกันกับคนที่ชอบใช้คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกด้อยค่าและรู้สึกสงสัยในความสามารถของตัวเอง การถอยออกมาอยู่คนเดียวสักพัก ปลีกตัวเองออกจากเสียงคนรอบข้างที่คอยย้ำเตือนว่าเราไม่ดีพอ ไม่มีความสามารถอาจเป็นเรื่องที่ดีและจำเป็นหากเราอยากลองทำตามเป้าหมายชีวิตที่เราได้ตั้งไว้ บางครั้งเราต้องยอมเลือกที่จะอยู่กับตัวเองหากคนรอบข้างได้กลายเป็นปัจจัยที่ทำให้เราต้องเป็นทุกข์ค่ะ
ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างเป็นสิ่งจำเป็นกับการใช้ชีวิตเช่นเดียวกับการได้ลองใช้เวลาอยู่กับตัวเองบ้าง บทความนี้ไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนตัดขาดทุกความสัมพันธ์แล้วเลือกที่จะอยู่คนเดียวเลย แต่เราก็จำเป็นต้องเลือกว่าความสัมพันธ์ไหนที่เราจะเก็บไว้ในชีวิต เพราะไม่ใช่ทุกคนที่ควรอยู่ในชีวิตเราหากคนเหล่านั้นทำให้เราต้องเป็นทุกข์อยู่บ่อย ๆ เราจึงไม่อยากให้ทุกคนกลัวการที่จะต้องอยู่คนเดียวหรือใช้เวลากับตัวเองจนเป็นเหตุให้ต้องยอมอยู่ในความสัมพันธ์ที่มันส่งผลเสียมากกว่าผลดี เราเองก็เคยกลัวมาก ๆ กับการเลิกรา ไม่ว่าความสัมพันธ์นั้นจะดีหรือไม่ดี แต่พอถึงเวลาที่ต้องเดินออกมาจริง ๆ จึงได้เรียนรู้ว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ได้แย่เลย ในทางกลับกันเราได้เรียนรู้ที่จะมอบความรัก เวลา และพลังงานให้กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งทำให้เรามีเวลาโฟกัสกับเป้าหมายในชีวิตและได้เรียนรู้ที่จะมีความสุขให้ได้ด้วยตัวเองค่ะ
⭐ บทความอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด